ม.มหิดล ห่วงเยาวชนไทย “ติดกับดักทางจริยธรรม” ในโลกยุคเมตาเวิร์ส

อาจารย์ ดร.ไพเราะ มากเจริญ รองคณบดีวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า โลกยุคเมตาเวิร์สเปิดกว้างสำหรับทุกคนบนโลก โดยไม่จำกัดเพศ วัย เชื้อชาติศาสนา แม้แต่ผู้ทรงศีล หรือ “พระ” ก็อาจท่องโลกเมตาเวิร์สได้ ตราบใดที่ยังไม่ขัดต่อหลักพระธรรมวินัย การปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคเมตาเวิร์ส ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ การมีทักษะถึงพร้อมด้านการใช้เทคโนโลยี แต่อยู่ที่ “ความพร้อมทางด้านจิตใจ” มากกว่า

อาจารย์ ดร.ไพเราะ เห็นว่า เรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม คือ ปัญหาทางจริยธรรมใหม่ๆ ในอนาคต ที่จะนำไปสู่คำถามที่ว่า “เยาวชนคนไทยรุ่นใหม่พร้อมแล้วหรือไม่ที่จะก้าวสู่โลกเมตาเวิร์สอย่างปลอดภัยและสันติสุข” โดยในต่างประเทศมีหลายตัวอย่างที่ถูกหยิบยกมาเป็นกรณีศึกษาเพื่อนำมาถกเถียงหาข้อสรุปในเชิงจริยธรรมกันอย่างแพร่หลาย เพื่อเตรียมพร้อม และสร้างแบบแผนการใช้งานในโลกเมตาเวิร์สร่วมกันอย่างปลอดภัย ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ หลักคิดสำคัญของจริยธรรมในโลกเมตาเวิร์ส คือ “การตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ของกันและกัน”

นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลนำมาตั้งเป็นหนึ่งในเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาของวิทยาลัยฯ ได้เรียนรู้ เข้าใจ ตระหนักและให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ของกันและกัน โดยไม่แบ่งแยก หรือนำความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม มาสร้างความขัดแย้ง หรือเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้

ปัจจุบัน วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกแบบหลักสูตรให้นักศึกษา ทั้งที่เป็นฆราวาส และพระภิกษุสงฆ์ ได้ฝึกทักษะเพื่อการเตรียมพร้อม และปรับตัวสู่โลกยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดย วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดให้นักศึกษาในชั้นปีแรก ได้เริ่มต้นเรียนวิชาฝึกการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) และต่อยอดในปีที่ 2 ด้วยการเรียนและฝึกคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking) จนเมื่อถึงชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยฯ จะฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการ(Entrepreneur) ให้กับนักศึกษาด้วย ส่วนในปีสุดท้ายก่อนสำเร็จการศึกษา นักศึกษาวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จะได้ “ออกแบบโปรเจ็คต์จบ” และทำโปรเจ็คต์นั้นตามที่ตนเองสนใจและถนัด ไม่ว่าจะเป็นการทำวิจัย ฝึกงาน หรือการทำจิตอาสา นอกจากนี้ ยังได้มีการเพิ่มทักษะด้วยกิจกรรมเสริมในการสร้างนวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวกับศาสนาให้กับนักศึกษาวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเยาวชนคนไทยรุ่นใหม่จะไปต่อในโลกเมตาเวิร์สได้เร็วหรือช้า แต่ทักษะเพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกยุคใหม่ที่วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมมอบให้นักศึกษาดังกล่าวนี้ จะเป็นต้นทุนสำคัญสู่การสร้างโอกาสในการดำรงชีวิตในวันข้างหน้าได้อย่างปลอดภัย และสันติสุขอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th