“ตุ๊กแก African Fat Tail” ยิ้มเก่ง มุ้งมิ้ง น่ารัก สดใส

คุณฟ้า หรือ คุณจินดารัตน์ นิลวรรณ สาวสวยวัย 25 ปี เจ้าของเพจ Gecko House VIP ในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ที่นำความชอบในการเลี้ยงสัตว์แบบ Exotic มาต่อยอดสร้างอาชีพหลังเรียนจบจากมหาวิทยาลัย ด้วยใจที่รักและมุ่งมั่นในการลงมือทำจึงนำมาสู่ธุรกิจภายในครอบครัว จนสามารถเกิดเป็นรายได้หลักในการเลี้ยงดูครอบครัว

คุณฟ้า เจ้าของเพจ Gecko House VIP

คุณฟ้า เล่าว่า เริ่มหันมาจับธุรกิจเลี้ยงสัตว์แบบ Exotic แบบจริงจัง เมื่อหลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยประมาณ 2 ปีก่อน เลี้ยงตุ๊กแก สายพันธุ์ African Fat Tail ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะต้องการหาสัตว์ที่ไม่ต้องการการดูแลเยอะ ใช้พื้นที่น้อย ไม่วุ่นวายและไร้เสียงรบกวน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตนเอง

ตุ๊กแกหลากหลายลวดลาย

“เริ่มต้นจากความชอบ ต้องการหาสัตว์ที่ไม่ต้องดูแลเยอะ ใช้พื้นที่น้อย ไม่วุ่นวายและไม่มีเสียงค่ะ ทำได้ไม่นานค่ะ ประมาณ 2 ปี เริ่มเลี้ยงสัตว์ Exotic แบบตุ๊กแกเป็นอันดับแรก เพราะว่าถ้าเป็นสัตว์อื่นๆ ที่บ้านไม่ค่อยเห็นด้วย จึงเป็นตุ๊กแกแทนค่ะ”

เพจ Gecko House VIP

เมื่อสอบถามถึงการเลี้ยงตุ๊กแก African Fat Tail นั้น คุณฟ้า เล่าว่า เป็นสัตว์เลี้ยงที่ชื่นชอบการนอนอยู่ในถ้ำ อาศัยอยู่ในกล่องพร้อมกระดาษรอง ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้แล้ว เพราะโดยปกติตุ๊กแกสายพันธุ์นี้ เป็นตุ๊กแกที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันเท่าที่ควร เวลาส่วนใหญ่จึงหมดกับการนอนนั่นเอง

ไข่ตุ๊กแก 2 ฟอง เท่ากับ 1 คลัช

“น้องค่อนข้างเลี้ยงง่ายค่ะ นิสัยของเขาไม่ค่อยมีกิจกรรมมากเท่าไร ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่ชอบนอนอยู่ในถ้ำ เลี้ยงง่ายเพียงมีกล่องให้เขา มีกระดาษรอง มีถ้ำ มีถ้วยน้ำแค่นี้ค่ะ แล้วก็กินอาหารแช่แข็งได้ ค่อนข้างเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และแทบจะไม่ดุเลยค่ะ การโดนกัด แทบไม่เคยโดนเลยดีกว่าค่ะ”

เลี้ยงง่าย เป็นมิตร

ในด้านของการผสมพันธุ์ จะใช้คำว่ายากก็ไม่ได้ ง่ายก็ไม่เชิง เพราะผู้เลี้ยงจำเป็นต้องสังเกตการตกไข่ของตัวเมีย ซึ่งสามารถสังเกตจากพฤติกรรมของตัวเมีย หากพร้อมที่จะผสมพันธุ์ก็จะยอมตัวผู้โดยดี ซึ่งการผสมพันธุ์ของตุ๊กแก African Fat Tail จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว คือช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงช่วงเดือนมีนาคม

แจกรอยยิ้มและความสดใส

เมื่อผสมพันธุ์เสร็จแล้ว ตัวเมียจะตั้งท้องอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์ ให้ลูกครั้งละ 1 คลัช หรือ 2 ฟอง สามารถให้ลูกได้สูงสุด 3 คลัช หรือ 6 ฟองนั่นเอง เมื่อตัวเมียฟักไข่แล้ว ผู้เลี้ยงจะแยกไข่ออกมาฟักในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน หากเป็นตัวผู้จะอยู่ที่ 32-33 องศาเซลเซียส และตัวเมีย 28-29 องศาเซลเซียส

“ตุ๊กแกจะว่าเพาะพันธุ์ง่ายก็ว่าง่าย จะว่ายากก็ยากค่ะ เพราะว่ามันต้องดูการตกไข่ของตัวเมียค่ะ เขาจะมีเป็นฤดู ปีละ 1 ครั้ง ก็คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงช่วงมีนาคม ช่วงหน้าหนาวค่ะ ต้องดูการตกไข่ของตัวเมียบางตัว ถ้าไข่ยังไม่ตก ก็คือไม่ยอมตัวผู้ แต่ถ้าไข่ตก ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถผสมพันธุ์ได้เลย แต่ปัจจัยหลักจะอยู่ที่ตัวเมียค่ะ ระยะการตั้งท้องจะอยู่ที่ 2-3 อาทิตย์ ให้ลูกเป็นคลัช คลัช 1 ครั้ง เท่ากับ 2 ฟอง เฉลี่ยแล้วประมาณ 3 คลัชค่ะ แต่บางตัวก็มากกว่านั้น แต่โดยเฉลี่ยก็ประมาณ 3 คลัช 6 ฟองค่ะ เมื่อเขาออกไข่แล้ว เราก็จะเอาไข่มาฟักอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็จะมีรายละเอียดว่าสีนี้จำเป็นต้องตัวผู้เท่านั้น ต้องมีแยกอุณหภูมิในการฟักตัวผู้ ตัวเมีย ซึ่งตัวเมียจะอยู่ที่ 28-29 องศาเซลเซียส ถ้าตัวผู้จะอยู่ที่ 32-33 องศาเซลเซียส ถ้าไม่กังวลเรื่องเพศ อุณหภูมิปกติก็ได้ค่ะ”

อาหารสำหรับตุ๊กแก African Fat Tail นั้น จะเป็นอาหารแช่แข็ง จำพวกสะดิ้งแช่แข็ง แมลงดูเบีย เมื่อต้องการที่จะให้อาหารตุ๊กแก ต้องนำมาแช่น้ำอุ่นก่อน เป็นเวลา 5-10 วินาที จากนั้นเช็ดให้แห้ง และสามารถนำไปให้ตุ๊กแกกินได้เลย ระยะเวลาการให้อาหารควรอยู่ที่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง กินครั้งละไม่เกิน 10 ตัว สำหรับตัวใหญ่ หากเป็นตัวเล็ก ครั้งละไม่เกิน 5 ตัว

“มีแยกค่ะ เพราะว่าตอนเด็กๆ เขาจะกินอาหารแช่งแข็งยังไม่เป็น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารเป็นค่ะ ก็แล้วแต่คนจะให้ค่ะ เช่น สะดิ้งฝอย ที่เป็นจิ้งหรีดขาวตัวเล็กๆ ค่ะ แล้วก็แมลงดูเบียก็ได้ค่ะ และตุ๊กแกจะดูเป็นน้ำหนัก ถ้าน้ำหนัก 10 กรัมขึ้น ก็พอกินได้บ้างแล้ว เป็นอาหารแช่งแข็ง เป็นสะดิ้งแช่แข็งค่ะ แต่ตัวโตเต็มวัย เวลาจะให้กินก็อุ่นด้วยน้ำร้อน 5-10 วินาที เช็ดให้แห้ง ก็สามารถให้ได้เลยค่ะ”

คุณฟ้าแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเลี้ยงตุ๊กแก African Fat Tail ว่า ควรเลี้ยงในอุณหภูมิไม่เกิน 34 องศาเซลเซียส หากเลี้ยงอุณหภูมิสูงมากกว่านี้ ห้ามขาดน้ำเด็ดขาด เพราะน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงตุ๊กแกสายพันธุ์นี้ รวมถึงอาหารและน้ำที่ให้กินควรสะอาดและไม่สกปรก หากสกปรกก็จะเกิดความเสี่ยงในการเป็นพยาธิโปรโตซัว ซึ่งหากเป็นแล้วจำเป็นต้องพาไปหาสัตวแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

ในด้านของราคาตุ๊กแกที่ฟาร์มของคุณฟ้านั้น จะเริ่มต้นที่ราคาตัวละหลักพันธุ์จนถึงหลักหมื่นบาท ความถูกแพงขึ้นอยู่กับ​​สี​และยีนแฝงในตัวตุ๊กแก ที่จะเป็นตัวกำหนดราคาในการขายแก่ลูกค้า

สำหรับท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์แบบ Exotic สามารถติดต่อคุณฟ้า หรือ คุณจินดารัตน์ นิลวรรณ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Gecko House VIP หรือเบอร์โทรศัพท์ 092-989-9926